ตามที่มีผู้โพสในโลกโซเชียล สองวันนี้เวรมีแต่เจอเรื่องลี้ลับ ได้รับแจ้งให้ตรวจสอบผู้ป่วยเป็นเณรสองรูปในวัดแห่งหนึ่ง ไปถึงเจอเณรร้องกรี้ดไม่หยุด ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ด้วยหลายวิธี หลังจากเริ่มมีสติเณรเล่าให้ฟังหมดเลยไปเจออะไรมา นางไม้ นางรำ และคนไม่มีหัวเจอพร้อมกันด้วยอีก

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.ของวันที่ 19 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ศูนย์กู้ชีพพันท้ายนรสิงห์ จุดหมู่บ้านวิเศษสุขนคร ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยพบกับนายสมควร พรรณจริต เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.พันท้ายนรสิงห์ (รหัสพันท้าย307) บอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ระหว่างที่ตนปฏิบัติงานอยู่ได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยชักเกร็งเป็นเณร 2 รูปที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.พันท้ายนรสิงห์ จึงไปตรวจสอบ

ภายในวัดพบที่บริเวณหอฉันท์มี 2 ชั้น โดยเณรทั้งสองอยู่ที่ชั้น 1 เข้าไปเห็นเณร 2 รูปไม่ได้ชัก แต่ว่าเป็นการร้องเหมือนตกใจอะไรสักอย่าง กำหมัดและดิ้นอยู่กับพื้น และส่งเสียงกรี้ดสลับกับร้องไห้ จึงเข้าไปปฐมพยาบาลและเรียกให้น้องคืนสติ ซึ่งตนประเมินดูแล้วน้องไม่ได้ชักเกร็ง แต่อาจเจอกับเหตุการณ์อะไรมาสักอย่างทำให้ตกใจสุดขีด เพราะว่าน้องมีอาการหายใจเร็ว และกำหมัดพร้อมกับกรี้ดตลอด จึงให้น้องในทีมกู้ชีพฯ ช่วยปฐมพยาบาล พร้อมใช้น้ำเย็นชุบผ้าและเรียกให้น้องคืนสติ ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีก็ฟื้นขึ้นมา

มีโอกาสได้สอบถามได้ความว่า ทั้งสองได้ขึ้นไปเล่นด้านบนชั้นสองของหอฉันท์ และไปแอบหลับ เห็นว่ามีผู้ชายไม่มีหัวมาหา ส่วนอีกสองคนเป็นผู้หญิงนางรำกับนางไม้ รวมทั้งมีทั้งคนตกน้ำตาย ผูกคอ ที่มาให้เห็น ที่ทำให้เขาจิตตกและตกใจมากทำให้กรี้ดอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งเหตุการณ์นี้กว่าสงบลงได้ก็ประมาณ 1 ชั่วโมง แต่น้องเณรก็ไม่ได้รับอันตรายใดๆ

พอฟื้นคืนสติขึ้นมามีเณรรูปหนึ่งพอพูดรู้เรื่อง แต่อีกรูปจำเหตุการณ์ไม่ได้เลย แต่ไม่ได้ป่วย เป็นอาการตกใจมากกว่า เพราะเมื่อน้องคืนสติมาแล้วสัญญาณชีพปกติหมด เพียงแต่เล่าให้ฟังว่าไปเจออะไรมาถึงเป็นแบบนี้ สำหรับการช่วยเหลือนั้นทางไสยศาสตร์ก็มีโดยหลวงพ่อเอาน้ำมนต์มาพรม และก็มีเอาพระไปคล้องคอเณรและเรียกคืนสติกลับมา ซึ่งอันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล

จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางที่วัดบ้านโคก ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พบกับทางพระมหาเริงฤทธิ์ สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดบ้านโคก เปิดเผยว่าเมื่อวานประมาณ10.40 น. อาตมากำลังนั่งฉันท์ข้าวอยู่เณรน้องวิ่งมาบอกว่า พระอาจารย์สามเณรเฟี้ยวกับสามเณรอรัญมีอาการช็อก ตนจึงมาดูพบว่าไม่น่าช็อกธรรมดา พระพี่เลี้ยงก็ดูเอาไม่อยู่จนไปเรียกเจ้าหน้าที่กู้ชีพมา อาการมันเหมือนกับแน่นหน้าอกและหายใจไม่ออก ปฐมพยาบาลยังไงก็ไม่ฟัง ตาขวางร้องบอกมีคนบีบคอ เณรตัวเล็กบอกเจอผีหัวขาด ตนก็งงทำอะไรไม่ถูกอยู่สักพัก ประมาณ 50 นาทีก็เลยฟื้น

จากนั้นอาตมาก็เลยกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรและให้ผีไร้ญาติ ที่เณรเขาเห็นเขาบอกไปเดินผ่านต้นโพธิ์หลังวัดข้างคลอง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นคิดว่าเป็นอุปาทานของเด็ก คือพวกนี้มันเป็นความเชื่อส่วนบุคคลก็ต้องใช้วิจารณญาณในการรับฟัง ซึ่งตนว่าเด็กสองคนนี้เป็นคนจิตอ่อน แล้วเขาจะมีลักษณะแบบนี้มาตั้งแต่วันบวชวันแรกเลย คือค่อนข้างอ่อนไหว โดยเฉพาะตัวเล็กเดี๋ยวป่วยๆ ใครไปแตะตัวไม่ได้เขาจะทิ้งตัวประมาณนี้ ซึ่งต้องดูอีกทีเพราะเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องลี้ลับเป็นเรื่องความเชื่อ ซึ่งตนไม่รู้จะพูดยังไง เพราะตนเกิดมาก็ไม่เคยเห็น ตั้งแต่บวชมาก็ไม่เคยเห็น

สำหรับเณรทั้งสองนั้นมาบวชภาคฤดูร้อนที่วัด และเรียนอยู่ที่ศาลาหอฉันท์ ซึ่งจริงๆ แล้วความเชื่อนั้นเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แต่เมื่อวานทั้งสองกรี้ดน่ากลัว ซึ่งตอนนี้เณรทั้งสองก็ปกติดี

อ้างอิง เรื่องฮอตวันนี้