บทความ Precast ไตรภาค
1. วิธีการสร้างบ้าน Precast
2. ข้อดีการสร้างบ้านและคอนโด ด้วยวิธี Precast
3. วิธีการเลือกผู้รับเหมาสร้างบ้านแบบ Precast
Episode 1 วิธีการสร้างบ้าน Precast
ระบบการก่อสร้างบ้านพรีคาสท์ (Precast) ที่ใช้ในประเทศไทยในปัจจุบันนั้น สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 2 กลุ่มคือ 1. ระบบเสาคาน Precast 2. ระบบผนังรับแรง Precast
ระบบ เสา – คาน Precast : คือการหล่อชิ้นงานแยกเป็น เสาพรีคาส – คานพรีคาส พื้นสำเร็จรูป(Plank 5cm) โดยรอยต่อจะใช้เป็นการเชื่อมเหล็กเดือย (Dowel) เข้าด้วยกันแล้วเทคอนกรีตที่รอยต่อ ซึ่งโครงสร้างแบบนี้จะมีจุดอ่อนที่รอยต่อ เพราะจุดต่อต้องรับแรงกระทบอย่างมาก และโครงสร้างโดยรวมจะมีความเปราะสูง
โครงสร้างประเภทนี้มักถูกใช้กับงานก่อสร้างบ้านขนาดเล็ก เพราะมีข้อดีคือสามารถปรับเปลี่ยนแบบได้หลากหลาย จึงเหมาะกับบริษัทรับสร้างบ้านขนาดเล็ก
รูปแสดงการก่อสร้างบ้าน Precast ด้วยระบบเสาคาน
ระบบผนังรับแรง Precast : จะหล่อชิ้นงานเป็นผนังพรีคาส พื้นจะใช้เป็นพื้นคอนกรีตตัน (Solid Slab) การเชื่อมต่อจะใช้ระบบเหล็กคล้องกัน แล้วเท Non-Shrink Concrete ตลอดความสูงของผนัง เมื่อติดตั้งรอยต่อทั้งหมดแล้ว โครงสร้างทั้งหมดจะประสานเชื่อมโยงกัน (มีลักษณะเป็นกล่อง)
ระบบก่อสร้างนี้จะถูกนำไปใช้กับโครงการก่อสร้างบ้านจัดสรร และโครงการขนาดใหญ่ เนื่องจากมีความแข็งแรงดีกว่า ใช้แรงงานน้อย แต่ก็จะต้องลงทุนมากกว่า
รูปแสดงการก่อสร้างบ้าน Precast ด้วยระบบผนังรับแรง
ตารางเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย ของระบบก่อสร้างบ้าน Precast
บ้าน Precast ระบบ เสา- คาน บ้าน Precast ระบบผนังรับแรง
ต้นทุนเริ่มแรก ถูกกว่า สูงกว่า
ระยะเวลาก่อสร้าง ช้ากว่า เร็วกว่า
ความแข็งแรง รับแรงแผ่นดินไหวได้น้อย รับแรงแผ่นดินไหวดีมาก
ข้อจำกัด ต้องมีงานก่อฉาบ ทำให้ช้า
และควบคุมคุณภาพได้ยาก ต้องใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ในการติดตั้ง
และต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ในการผลิตแผ่น
จากการเปรียบเทียบ ข้อดี – ข้อเสีย ของระบบการก่อสร้าง Precast ทั้ง 2 แบบจะเห็นได้ว่าหากต้องการผลิตในปริมาณที่มากพอ เช่น ในโครงการหมู่บ้านจัดสรร การก่อสร้างด้วยระบบผนังรับแรงจะได้ประโยชน์มากกว่า ทั้งในมิติของค่าก่อสร้าง ซึ่งจะถูกลงเมื่อผลิตจำนวนมาก ควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างได้ง่ายกว่า จำนวนคนงานที่ใช้น้อยลง และก่อสร้างได้เร็วขึ้น
สำหรับวิธีการก่อสร้างบ้าน Precast ด้วยระบบผนังรับแรง สามารถแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 4 ส่วนงาน คือ 1.ส่วนเตรียมพื้นที่ก่อสร้าง 2.งานผลิตชิ้นส่วน Precast 3. งานติดตั้งชิ้นส่วน Precast 4. ส่วนงานสถาปัตย์
โดยหลังจากออกแบบแล้วเสร็จ แบบจะถูกส่งต่อให้หน้างานก่อสร้าง เพื่อทำงานเสาเข็ม, ฐานราก และพื้นชั้นล่าง และแบบอีกส่วนจะถูกส่งไปโรงงานผลิตแผ่น Precast แล้วแผ่นจึงถูกส่งไปให้ฝ่ายติดตั้ง เพื่อนำไปติดตั้งในพื้นที่ที่เตรียมไว้ โดยขั้นตอนติดตั้งจะอยู่ประมาณ 2-5 วัน หลังจากนั้นส่วนงานหลังคา งานระบบประปา-ไฟฟ้า และสถาปัตยกรรม จะเข้าไปทำงานอีกประมาณ 30-45 วันจนบ้านเสร็จเรียบร้อย
รูปแสดงการเตรียมพื้นที่ก่อสร้าง
ฝ่ายผลิตดำเนินการหล่อแผ่น Precast
รูปแสดงการติดตั้งผนัง Precast
ระบบไฟฟ้า ประปา หลังคา และงานสถาปัตยกรรม
การก่อสร้างบ้าน Precast ในประเทศไทย ได้รับการพัฒนามาเป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปี แม้ว่าในช่วงแรกๆ บ้าน Precast มักจะได้ยินเสียงบ่นของผู้บริโภค ถึงปัญหาเกิดรอยร้าว และเกิดการรั่วซึม ซึ่งปัญหาดังกล่าวได้รับการพัฒนาจนสามารถแก้ไขได้ทั้งหมดแล้ว ดังจะพิสูจน์ได้จากโครงการระดับบนๆ เช่นบ้านราคาเกิน 10 ล้าน ก็เริ่มมีผู้ก่อสร้างด้วยระบบ Precast แล้ว
ดังนั้นจึงสรุปว่าการก่อสร้างบ้านด้วยระบบ Precast ในประเทศไทยได้มีการใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยผู้บริโภคจะได้บ้านที่มีคุณภาพ สร้างได้รวดเร็ว ในราคาที่ไม่ได้แพงกว่าระบบการก่อสร้างแบบเดิม