เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2547 คุณณัฐวรรณ ไกรกาบแก้ว MD ของ บริษัท เดอะ ตรีทัช เอเชียแปซิฟิค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ จำหน่ายและรับเหมาปูกระเบื้องสระว่ายน้ำ มาตรฐานสากล รวมถึงจำหน่ายและรับเหมาปูกระเบื้องเคนไซ, กระเบื้อง RCI , กระเบื้องเคอร่าไทล์ Kera Tiles หินธรรมชาติทุกชนิด กรวดล้าง, ทรายล้าง, หินขัด, หินทราย, หินกาบ, หินภูเขา และปูนกาวเวเบอร์ Weber หรือ ปูนตุ๊กแก

ได้ให้สัมภาษณ์ www.manager.co.th โดยมีเนื้อหาดังนี้ครับ

เมื่อธุรกิจจำหน่ายกระเบื้องดินเผาของพ่อที่ทำมา 30 กว่าปี มีอันต้องตกไปเป็นของคนอื่น ณัฐวรรณและพี่น้อง จึงตกลงใจออกมาตั้งบริษัทของตัวเอง โดยใช้พื้นฐานความรู้จากที่เคยช่วยพ่อทำงานในบริษัทเดิม และค่อยๆ เรียนรู้และพัฒนาตัวเอง จากบริษัทเล็กๆ จนเป็นค่อยๆ เติบโตเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
       
       ณัฐวรรณ ไกรกาบแก้ว เล่าว่า ขอคุณพ่อออกมาลุยกันเอง 3 พี่น้อง เมื่อปี 2546 เนื่องจากไม่อยากเป็นแค่ลูกน้องกินเงินเดือนจากบริษัทที่เคยเป็นของคุณพ่อมาก่อน โดยเงินลงทุนเริ่มต้นรวมกันได้ประมาณ 1 ล้านบาท โดยจดทะเบียนบริษัท บริษัท เดอะ ตรีทัช เอเชียแปซิฟิค จำกัด แต่ใช้ชื่อยี่ห้อว่า TTouch ซึ่งยังเป็นธุรกิจเดิม คือจำหน่ายกระเบื้องดินเผา
       
       “รี่จบคณะวิศวอุตสาหการ ม.ธรรมศาสตร์ เรียนจบก็มาช่วยคุณพ่อวิ่งเซลล์อยู่ปีกว่า ก็เลยพอมีพื้นฐานอยู่บ้าง รู้ว่าต้องเข้าไปที่ไหน ที่ไหนมีงานให้เรา มันก็เลยต่อเนื่องได้โดยไม่ขลุกขลัก เริ่มต้นก็วิ่งตลาดลูกค้าที่เราเคยวิ่งอยู่ ก็ใช้แบรนด์ของเคนไซน์ ที่เราเป็นผู้แทนจำหน่ายหลัก เป็นสื่อกลางก่อนที่จะเริ่มสินค้าของเราเอง จากตัวเคนไซน์เราก็เสริมสินค้าของเราเสนอลูกค้าไปด้วย”
       
       เริ่มเปิดบริษัทแรกๆ ณัฐวรรณช่วยกันแค่สองคนกับพี่ชายเท่านั้น โดยน้องชายเริ่มเข้ามาช่วยตอนปลายปี 2546
       
       “รี่จะดูในส่วนของมาร์เก็ตติ้ง วิ่งตลาดเป็นหลัก หาลูกค้า สถาปนิก เราต้องเข้าหาลูกค้าเอง เพราะเป็นบริษัทใหม่ ส่วนพี่ชายจะทำในส่วนของงานช่าง พวกระบบติดตั้งทั้งหมด น้องชายจะเป็นตัวประสานงานระหว่างรี่กับพี่ชาย”
       
       ด้วยไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจ เพราะตอนช่วยคุณพ่อก็วิ่งเซลล์เท่านั้น จึงไม่รู้ระบบว่าซื้อขายยังไง หมุนเงินยังไง ณัฐวรรณจึงปรึกษาเพื่อนที่ทำงานที่เนคเทค ซึ่งได้แนะนำให้เข้าอบรมธุรกิจในเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ ของกระทรวงอุตสาหกรรม
       
       ณัฐวรรณ กล่าวถึงปัญหาในการทำธุรกิจว่า ปัญหาแรกๆ มีเยอะ เพราะเป็นบริษัทใหม่ ไม่มีชื่อเสียง ลูกค้าไม่ค่อยเชื่อมั่นเท่าไหร่ จึงไม่มีการจ่ายเงินก่อนส่งของ
       
       “เราต้องส่งของให้เขาก่อนถึงจะเก็บเงินได้ รี่จะพยายามรับเป็นเงินสดทั้งหมด บางทีมีงานใหญ่ๆ เราต้องให้เครดิตเขา ทำให้เราต้องหันมาดูระบบการหมุนเงินด้วย บางทีก็มีช็อตบ้าง ก็ต้องไปกู้ยืมญาติพี่น้อง ส่วนระบบช่างก็มีปัญหาบ้าง แต่พี่ชายก็ดูแลดี ปัญหาเลยไม่เยอะ”
       
       ส่วนปัญหากับโรงงานก็มีบ้าง เพราะเป็นโรงงานท้องถิ่น แบบชาวบ้าน มักจะมีปัญหาเรื่องการส่งของที่ล่าช้าบ้าง ก็ต้องเผื่อเวลาไว้ด้วย
       
       ด้านการแข่งขัน ณัฐวรรณ กล่าวว่า เนื่องจากบริษัทยังเล็ก โอเวอร์เฮดยังต่ำ ราคาจึงสามารถยืดหยุ่นได้
       
       “เรามีช่างที่ชำนาญงานเป็นผู้ติดตั้งให้เบ็ดเสร็จ ค่าแรงช่าง 150 บาทต่อตารางเมตร ถ้าผนังก็ 180 บาท ดีไซน์เราก็แตกต่าง ที่เหมือนก็มีแค่บางรุ่น และมีหลายรูปแบบให้เลือก ส่วนกับกระเบื้องลำปาง-ไทย (L-Thai) ที่เขามีชื่อเสียงมานาน เราก็พอจะสู้ได้ เพราะราคาถูกกว่าและคุณภาพใกล้เคียงกัน”
       
       “เรื่องแบบของกระเบื้องทางโรงงานก็จะออกแบบมาใหม่เรื่อยๆ สถาปนิกเองถ้าต้องการแบบที่แตกต่างไปก็สามารถออกแบบมาให้เราได้เหมือนกัน”
       
       ปีแรกที่เริ่มธุรกิจก็มีรายได้ประมาณ 1-2 แสนบาทต่อเดือนเท่านั้น แต่ปัจจุบันก็เพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านบาทต่อเดือน โดยตอนนี้ก็ยังขายเคนไซน์ร่วมกับสินค้าจากโรงงานเคลือบเขลางค์ จ.ลำปาง ด้วย
       
       “ตอนนี้เราก็เริ่มๆ มีชื่อในวงการบ้าง แต่ก็ไม่มากนัก บริษัทเราก็เพิ่งเริ่มเข้าปีที่สอง ได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีแล้ว พอใจแล้ว”
       
       และเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าของบริษัทได้มากขึ้น ขยายตลาดให้กว้างขึ้น ณัฐวรรณจึงเตรียมเปิดหน้าร้านที่ ถ.สุขาภิบาล 2 และติดต่อเพื่อเข้าไปวางขายในร้านโฮมโปรกับโฮมมาร์ทอีกด้วย
       
       “การวางขายในโฮมโปรและโฮมมาร์ท อยู่ระหว่างรอสรุปราคา คิดว่าต้นปีหน้าน่าจะได้วาง หวังว่ายอดขายคงจะขึ้นมาอีกหน่อย แล้วก็จะไปดูพวกกระเบื้องตัวอื่นๆ มาเพิ่มด้วย ซึ่งคงต้องดูแนวโน้มตลาดอีกทีว่าจะเป็นแบบไหน”

http://www.siam-handicrafts.com/webboard/question.asp?QID=1763        
       สนใจกระเบื้องดินเผา “TTouch” เข้าไปดูแบบได้ที่ www.treetouch.com หรือโทร. 0-2729-8460